วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2561

นิทานพื้นบ้านภาคใต้


นิทานพื้นบ้านภาคใต้

เรื่อง  เกาะหนูเกาะแมว





นานมาแล้วมีพ่อค้าจีนคนหนึ่ง คุมเรือสำเภาจากเมืองจีนมาค้าขายที่เมืองสงขลา…เมื่อขายสินค้าหมดแล้วจะซื้อสินค้าจากสงขลากลับไปเมืองจีนเป็นประจำ วันหนึ่งขณะที่เดินซื้อสินค้าอยู่นั้น พ่อค้าได้เห็นหมากับแมวคู่หนึ่งมีรูปร่างหน้าตาน่าเอ็นดู จึงขอซื้อพาลงเรือไปด้วย

หมากับแมวเมื่ออยู่ในเรือนานๆ…ก็เกิดความเบื่อหน่ายและอยากจะกลับไปอยู่บ้านที่สงขลา…จึงปรึกษาหาวิธีการที่จะกลับบ้าน หมาได้บอกกับแมวว่า “พ่อค้ามีดวงแก้ววิเศษที่ใครเกาะแล้วจะไม่จมน้ำ” แมวจึงคิดที่จะได้แก้ววิเศษนั้นมาครอบครอง จึงไปข่มขู่หนูให้ขโมยให้และอนุญาตให้หนูหนีขึ้นฝั่งไปด้วย ครั้นเรือกลับมาที่สงขลาอีกครั้งหนึ่ง หนูก็ลอบเข้าไปลักดวงแก้ววิเศษของพ่อค้าโดยอมไว้ในปาก…แล้วทั้งสามได้แก่ หมา แมว และหนูหนีลงจากเรือว่ายน้ำจะไปขึ้นฝั่งที่หน้าเมืองสงขลา



ขณะที่ว่ายน้ำมาด้วยกัน หนูซึ่งว่ายน้ำนำหน้ามาก่อนก็นึกขึ้นได้ว่าดวงแก้วที่ตนอมไว้ในปากนั้นมีค่ามหาศาล เมื่อถึงฝั่งหมากับแมวคงแย่งเอาไป จึงคิดที่จะหนีหมากับแมวขึ้นฝั่งไปตามลำพัง ดวงแก้วจะได้เป็นของตนเองแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป…แต่แมวที่ว่ายตามหลังมาก็คิดจะได้ดวงแก้วไว้ครอบครองเช่นกัน จึงว่ายน้ำตรงรี่เข้าไปหาหนู ฝายหนูเห็นแมวตรงเข้ามาก็ตกใจกลัวแมวจะตะปบจึงว่ายหนีสุดแรง และไม่ทันระวังตัวดวงแก้ววิเศษที่อมไว้ในปาก ก็ตกลงจมหายไปในทะเล

เมื่อดวงแก้ววิเศษจมน้ำไป ทั้งหนูและแมวต่างหมดแรงไม่อาจว่ายน้ำต่อไปได้…สัตว์ทั้งสองจึงจมน้ำตายกลายเป็น “เกาะหนูเกาะแมว” อยู่ที่อ่าวหน้าเมืองสงขลา…ส่วนหมาก็ตะเกียกตะกายว่ายน้ำไปจนถึงฝั่ง…แต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจึงขาดใจตายกลายเป็นหินเรียกว่า “เขาตังกวน” เป็นภูเขาตั้งอยู่ริมอ่าวสงขลา…ส่วนดวงแก้ววิเศษที่หล่นจากปากหนูก็แตกแหลกละเอียดเป็นหาดทราย เรียกสถานที่นี้ว่า “หาดทรายแก้ว” ตั้งอยู่ทางเหนือของอ่าวสงขลา



นิทานรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. ให้แนวคิดว่า “อย่าโลภมาก ให้มีความสามัคคีและแบ่งปันเอื้อเฟื้อต่อกัน”
2. เกาะหนูเกาะแมวเป็นนิทานประเภทอธิบายสถานที่…ซึ่งปรากฏอยู่ที่แหลมสมิหลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา






เรื่อง ปลาแก้มช้ำ





กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง มีอยู่ด้วยกันสี่ชีวิต ตา ยาย หมา และแมว ยายนั้นมีแหวนอยู่วงหนึ่งงามมาก หมาเมื่อได้เห็นแหวนของยาย แล้วก็ให้นึกชอบอยู่ในใจของมันยิ่งนัก

ต่อมาไม่นาน หมาก็ได้ลักแหวนของยายไปเสีย ตายายจึงใช้ให้แมวตามไป เอาแหวนคืนมาจากหมาให้ได้ แมวก็ได้ตามไปทันหมาที่สะพานแห่งหนึ่งซึ่งหมากำลัง ข้ามอยู่บนสะพานนั้นพอดี แมวจึงได้ร้องถามหมาขึ้นว่าได้ลักแหวนของยายมาบ้างไหม หมาจึงอ้าปากจะพูดโต้ตอบกับแมว เลยทำให้แหวนที่มันคาบอยู่นั่นหล่นลงไปในคลอง เสีย และก็บังเอิญในคลองนั้นได้มีฝูงปลาฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ แหวนวงนั้นจึงได้ถูกปลาตัว หนึ่งคาบเอาไป

เมื่อแหวนได้ตกลงไปในคลองเสียเช่นนั้นแล้ว หมากับแมวก็ได้หันหน้า เข้าหากันเพื่อปรึกษาหารือที่จะงมแหวนจากคลองนั้นให้ได้ โดยหมาได้รู้สึกนึกผิดที่ได้ลัก เอาของมีค่าของผู้มีพระคุณของมันมา มันจึงได้บอกกับแมวว่า มันจะต้องเอาแหวนนั้น ไปคืนยายให้ได้ มิฉะนั้นแล้วมันก็จะไม่กลับไปบ้านของตายายอีกเป็นอันขาด หมาจึงได้ลงไปดำว่ายอยู่ในคลองเพื่อหาแหวนแต่ก็ไม่พบแต่อย่างใด มันจึง คิดที่จะวิดน้ำในคลองนั้นให้แห้งเสียเลย หมาจึงได้ลงไปในคลองนั้นแล้วก็ขึ้นมาสะบัดน้ำ ออกจากตัวมันได้ทำอยู่เช่นนั้นทั้งวันทั้งคืน ฝ่ายปลาที่อาศัยอยู่ในคลองนั้นต่างก็ตกใจกลัวว่าน้ำจะแห้งแล้วพวกตนก็จะพากันตายหมด หัวหน้าฝูงปลาจึงได้มาพูดขอร้องกับหมาทันทีโดยให้หมายุติการวิด คลองเสีย แล้วตนก็อาสาเอาแหวนมาคืนให้ หัวหน้าฝูงปลาจึงได้พาบริวารออกค้นหา ปลาตัวที่คาบแหวนนั้นไปจนพบ แล้วก็ได้ขอแหวนคืนให้หมาแต่โดยดี แต่ปลาตัวนั้นก็ ไม่ยอมคืนให้ ปลาทั้งฝูงจึงโกรธปลาตัวนั้น ก็ได้พากันเข้าตบตียื้อแย่งเอาแหวนวงนั้นมา และได้นำไปให้หมาได้ในที่สุด

ในการยื้อแย่งเอาแหวนจากปลาด้วยกันครั้งนั้น ปลาตัวที่มีแหวนอยู่ในครอบครองก็ได้ถูกเพื่อน ๆ ปลาตบตีเอาจนแก้มทั้งสองช้ำชอกยิ่งนัก ปลาตัวนั้นจึงได้แก้มช้ำ มาตั้งแต่บัดนั้นและมันก็ได้มีเผ่าพันธุ์ต่อมา ปลาทุกตัวที่สืบเชื้อสายมาจากปลาตัวนี้ก็ ล้วนแต่มีลักษณะคล้ายกับแก้มช้ำเหมือนกันหมด จึงได้เรียกชื่อปลาชนิดนี้ตามลักษณะ ของมันว่า “ปลาแก้มช้ำ” มาจนทุกวันนี้



ข้อคิด



1.   ไม่ควรโลภ อยากได้ของของผู้อื่น

2.  ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรู้จัก หรือคนในครอบครัว หากเรามีความเห็นแก่ตัวก็ไม่มีใครอยากมาสนิทชิดเชื้อด้วย








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน

⤞   นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน ⤟ เรื่อง   ตำนานผาแดงนางไอ่            นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน ผาแดงนางไอ่ อดีตกาลผ่านมาใกลโพ้น   ...